Program Collagen Wave คือ
Collagen Wave โปรแกรมที่จะช่วยสร้างผิวที่ดีจากภายในให้ออกสู่ภายนอกด้วยคลื่นวิทยุ Monopolar RF ซึ่งเป็นคลื่นที่อ่อนโยนไม่ทำให้ เจ็บ แสบ ร้อนและไม่ทำให้เขียวช้ำ ทำให้คอลลาเจนเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณบนใบหน้า
Collagen Wave ทำงานอย่างไร ?
Collagen Wave จะส่งคลื่นพลังงาน Monopolar RF เข้าสู่ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยใช้หัว 3 ประเภทในการกระตุ้นคอลลาเจน
- 1.Stamp = เป็นหัวที่ปล่อยพลังงานแบบ Shot ทำให้ส่งพลังงานได้อย่างลงลึกและแม่นยำ
- 2.Moving = เป็นหัวที่ปล่อยพลังงานต่อเนื่องมีความเสถียรสูงทำให้สามารถส่งพลังงานกระจายได้เท่ากันทุกจุดทั่วใบหน้า
- 3.Focus Collagen = เป็นหัวปล่อยพลังงานอย่างต่อเนื่องที่มีขนาดเล็กที่สุดใช้สำหรับพื้นที่ที่เข้าถึงยากเช่นบริเวณใต้ตาช่วยเก็บ ริ้วรอยเล็กๆบริเวณใต้ดวงตาได้เป็นอย่างดี
ซึ่งการใช้หัวแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และการประเมินของคุณหมอปรับรูปหน้า โดยคุณหมอจะทำการประเมินใบหน้าเพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงปัญหา ไปพร้อมกับการทำหัตถการ เพื่อการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมและให้เกิดความพึงพอใจในตัวคนไข้
Collagen Wave เห็นผลลัพธ์ เมื่อไหร่? อยู่ได้นานแค่ไหน?
Collagen Wave จะแบ่งผลลัพธ์เป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1
คุณภาพของคอลลาเจนจะดีขึ้นเนื่องจากการหดตัว ทำให้คอลลาเจนมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูงพร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ผิว เด้ง แน่น ยืดหยุ่นและริ้วรอยจางลงทันทีหลังทำ ซึ่งระยะนี้สามารถอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์
ระยะที่ 2
คุณภาพและปริมาณของคอลลาเจนจะดีขึ้น เนื่องจากตัวคลื่นจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้มีคอลลาเจนที่มีประสิทธิภาพสูงจำนวนมาก ทำให้เกิดการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว มีความเด้ง ยืดหยุ่น กระชับและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้หลังจากการทำ Collagen Wave 1 เดือน สามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล
ทำไมต้องกระตุ้นคอลลาเจน และ สร้างเจนใหม่
เนื่องมาจากการลดลงของคอลลาเจนโดยแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย
ปัจจัยภายใน
เกิดจากกระบวนการของความเสื่อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยคอลลาเจนจะเริ่มลดลงเมื่ออายุ 25 ปีเป็นต้นไปโดยจะลดลง 1 % ในทุกปีแต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงที่หมดประจำเดือนคอลลาเจนจะลดลงปีละ 2 %
ปัจจัยภายนอก
เป็นปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเกิดการเสื่อม และ สลายตัวเร็วมากยิ่งขึ้นได้แก่
- พักผ่อนน้อย
- ดื่มน้ำน้อย
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- ความเครียด
- รังสียูวีจากแสงแดดและแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ
- มลภาวะ
- ความร้อน
- การกิน โภชนาการ
เมื่อรวมทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อการเสื่อมถอยของคอลลาเจนแล้ว สามารถสรุปได้ว่า Collagen จะลดลงมากกว่า 1 % ต่อปีโดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล ส่งผลให้สภาพผิวเราแย่ลงตามไปด้วย
ทำไม ? คอลลาเจนที่ลดลงถึงส่งผลต่อผิว
ผิวของคนเรามีอยู่ 3 ชั้น ซึ่งในแต่ละชั้นผิวก็จะมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันไปโดยผิวชั้นหนังแท้ ( Dermis) เป็นชั้นที่อยู่ตรงกลางซึ่งมีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลัก โดยมีสัดส่วนมากถึง 80% ดังนั้นเมื่อคอลลาเจนลดลง ทำให้ใบหน้าไม่สามารถรองรับน้ำหนักที่กดทับลงมาได้ จึงส่งผลต่อผิวที่อยู่ข้างบนคือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ที่เป็นชั้นนอกสุดของผิว ทำให้เห็นปัญหาริ้วรอย ร่องลึกและความหย่อนคล้อย ทำให้ดูมีอายุ
Collagen Wave เหมาะกับใคร ?
Program Collagen Wave เป็นการใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ซึ่งเป็นคลื่นที่มีความอ่อนโยนไม่ทำให้เจ็บ แสบ หรือเขียวช้ำ ยิงเข้าไปยังผิวชั้น Dermis ซึ่งเป็นผิวที่มีคอลลาเจนเยอะที่สุดให้หดตัว และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จะช่วยลดปัญหาคอลลาเจนไม่เพียงพอเนื่องจากการลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เผชิญกับปัญหาผิวดังนั้น Collagen Wave จึงเหมาะสมกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนที่มีอายุมากที่สามารถช่วยรักษาเกี่ยวกับปัญหาผิว และ คนที่อายุยังน้อยสามารถช่วยป้องกันและรักษาผิวที่เรียบเนียนกระจ่างใสให้อยู่กับเราได้อย่างยาวนาน
Collagen Wave ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? ต้องใช้กี่ Wave?
Program Collagen Wave สามารถทำได้ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ ซึ่งจำนวน Wave ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัญหาต่างๆ ว่ามีมากแค่ไหน แต่ยิ่งทำเยอะ ปริมาณและคุณภาพของคอลลาเจนก็จะยิ่งส่งผลดีให้ผิวของเรา สามารถอยู่กับเราได้นานขึ้น
ถ้าหากใครยังไม่รู้ว่าผิวของตัวเองมีปัญหามากแค่ไหน ? สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินปัญหา เพื่อที่จะคำนวณจำนวน Wave หรือสามารถ Add Line : @Fxcc เพื่อมาปรึกษาเบื้องต้นได้เลย
Program Collagen Wave ต้องที่ FaceXercise Clinic
Collagen Wave เป็นโปรแกรมที่นายแพทย์ อภิวัฒน์ มงคลสินธุ์ (คุณหมอเด่น) ออกแบบมาสำหรับปัญหาผิวโดยเฉพาะ ทำให้มีแค่ที่ FaceXercise Clinic เท่านั้น ซึ่งโปรแกรมนี้จะมีคุณหมอที่เชี่ยวด้านการปรับรูปหน้ามาคอยให้คำปรึกษา ให้ความรู้ในเรื่องของชั้นผิวเป็นอย่างดี ทำให้สามารถประเมินปัญหาโดยจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจไปพร้อมๆกัน ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกับความต้องการ เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ ภายใต้ความปลอดภัยสูงสุด