Collagen คือ สิ่งที่เรารู้กันว่ามีความจำเป็นกับผิวอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผิวเลยก็ว่าได้ แต่คอลลาเจนมักจะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ในทุกๆวัน ซึ่งการลดลงนี้เป็นกระบวนการเสื่อมถอยของร่างกายที่ไม่สามารถหยุดได้ ส่งผลให้สุขภาพผิวแย่ลงไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น หลายคนจึงมักพยายามเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกาย ผ่านการทานอาหารเสริมต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาทำความเข้าใจเรื่องของคอลลาเจนให้มากขึ้น พร้อมทั้งวิธีการที่ร่างกายจะได้รับคอลลาเจนได้อย่างเพียงพอเพื่อรักษาคุณภาพผิวที่ดีให้อยู่กับเราไปอย่างยาวนาน
Collagen คืออะไร ?
คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดนึงที่มีอยู่ในร่างกายมีปริมาณที่มากถึง 1 ใน 3 ของร่างกายในปัจจุบันมีการค้นพบมากกว่า 28 ชนิด แต่มีที่พบมากที่สุดอยู่ 5 ชนิด คือ
คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type 1) สามารถพบได้มากที่สุดในร่างกายโดยเฉพาะในบริเวณผิวหนังโดยคอลลาเจนชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างให้กับผิวโดยจะคอยช่วยเหลือให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type 2) สามารถพบได้มากที่ในกระดูกอ่อน เช่นหู จมูก หลอดลม และ กระดูกซี่โครงมีหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์ทำให้มีจำนวนมากขึ้นคอยช่วยในการสร้างกระดูก และลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวกขึ้น
คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type 3) สามารถพบได้ในบริเวณผิวหนัง กล้ามเนื้อ คล้ายกับชนิดที่ 1 แต่จะพบได้น้อยกว่า มีหน้าที่ในการช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ และ ลดอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย
คอลลาเจนชนิดที่ 4 (collagen Type 4) สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ และ ไขมัน เส้นใยฝอยของเยื่อบุผิว มีหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท เส้นเลือด รักษาความสมบูรณ์ของผนังหลอดเลือดในข้อต่อ และ ป้องกันเซลล์มะเร็งลุกลาม
คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type 5) สามารถพบได้ในบริเวณเดียวกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 มักพบในผิวของเซลล์ เส้นผม เนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์ มีหน้าที่ช่วยจัดระเบียบเซลล์ และ ควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิว
คอลลาเจนชนิดที่สำคัญต่อคุณภาพผิวมากที่สุด ?
คอลลาเจนแต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป โดยชนิดที่มีความสำคัญกับผิวมากที่สุดคือคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type 1) ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง เป็นโครงสร้างสำคัญ ช่วยให้ผิวแน่นกระชับไม่หย่อนคล้อย
ผิวที่มีคุณภาพมีลักษณะอย่างไร ?
ผิวแข็งแรงคือผิวที่มีสุขภาพดีโดยจะมีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน คือ
1.Elasticity คือ ผิวที่มีความยืดหยุ่น สังเกตได้โดยการดึงผิวของเราออกมาแล้วปล่อย ผิวจะกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
2.Bounce คือ ผิวที่มีความเด้ง สังเกตได้จากการที่เรานำนิ้วเข้าไปกดบริเวณผิว โดยจะรู้สึกถึงแรงที่สะท้อนเด้งกลับมาหาเราได้เร็วแค่ไหน
3.Stretch คือ ผิวที่มีการคงทน สังเกตได้จากการที่เรา ดึง ขึง หรือ บิด ผิวหนังแล้วผิวหนังไม่ฉีกขาดออกจากกัน ยังคงสภาพเดิม ยึดเกาะกันเป็นเนื้อเดียวกันอยู่
ผิวแข็งแรงช่วยอะไร ?
- ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
- ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ
- ช่วยป้องกันอาการแพ้จากสภาพแวดล้อมต่าง
การที่จะมีผิวแบบนี้ได้ร่างกายต้องมีปริมาณคอลลาเจนที่มากพอจึงจะส่งผลให้เห็นผิวที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ในทางกลับกันหากคอลลาเจนลดลง หรือ มีไม่มากพอก็จะส่งผลเสียต่อสภาพผิวได้เช่นกัน
การลดลงของคอลลาเจน (Collagen Degradation)
การลดลงของคอลลาเจนมีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัย
ปัจจัยภายใน
เกิดจากกระบวนการของความเสื่อมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยคอลลาเจนจะเริ่มลดลงเมื่ออายุ 25 ปีเป็นต้นไปโดยจะลดลง 1 % ในทุกปีแต่ถ้าหากเป็นผู้หญิงที่หมดประจำเดือนคอลลาเจนจะลดลงปีละ 2 %
ปัจจัยภายนอก
เป็นปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเกิดการเสื่อม และ สลายตัวเร็วมากยิ่งขึ้นได้แก่
- พักผ่อนน้อย
- ดื่มน้ำน้อย
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์
- ความเครียด
- รังสียูวีจากแสงแดดและแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ
- มลภาวะ
- ความร้อน
- การกิน โภชนาการ
เมื่อรวมทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อการเสื่อมถอยของคอลลาเจนแล้วสามารถสรุปได้ว่า Collagen จะลดลงมากกว่า 1 % ต่อปีโดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
Collagen ลดลงทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง?
คอลลาเจนลดลงจะส่งผลต่อคุณภาพผิวทำให้เกิดปัญหาผิวหลายปัญหา เช่น
- ผิวไม่เด้ง
- ผิวหยาบกร้าน
- ผิวหย่อนคล้อย
- ผิวย่น
- ผิวแห้ง
- ผิวขาดความยืดหยุ่น ดึงผิวแล้ว เด้งกลับหรือคืนตัวช้า
- ผิวมีริ้วรอยเมื่อไม่แสดงสีหน้า ผิวมีริ้วรอยเมื่อมีการแสดงสีหน้า
จะเห็นได้ว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เห็นได้ในบริเวณใบหน้าส่งผลให้เราดู แก่ อย่างเห็นได้ชัด
ป้องกันปัญหาผิวเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ที่ FaceXercise Clinic
โดยปกติปัญหาเหล่านี้มักจะแสดงออกมาเมื่ออายุมากขึ้น จากการที่คอลลาเจนเสื่อมลง ทำให้การแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยาก และใช้ระยะเวลาที่นาน ดังนั้นเราจึงควรเริ่มป้องกันตั้งแต่อายุยังน้อยซึ่งมีหลากหลายวิธี
1.การทาน
การทาน เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มคอลลาเจน แต่การทานคอลลาเจนโดยตรงร่างกายจะรับคอลลาเจนได้ไม่เต็มที่ เช่น คอลลาเจน 100 % เมื่อเราทานเข้าไปโดยตรงร่างกายจะดูดซึมเข้าไปได้ 40-60 % เท่านั้น เนื่องจากร่างกายมีจุดที่อิ่มตัวในการดูดซึมทำให้คอลลาเจนส่วนที่เหลือจะถูกขับออกมาผ่านช่องทางต่าง ๆ แต่ทาง FaceXercise Clinic เรามีโปรแกรมที่ชื่อว่า
1.1 Collagen Drip & Drink
โปรแกรมการเพิ่มคอลลาเจนผ่านการทาน และ ดริปวิตามิน สูตรพิเศษของ FaceXercise Clinic ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกายโดยเฉพาะทำให้ร่างกายได้รับคอลลาเจนแบบ x2 ส่งผลให้ผิวใส เรียบเนียน และ การระคายเคืองลดลง
2.การฉีด
การฉีด เป็นอีกวิธีนึงที่ให้ผลลัพธ์ที่ และคงไว้ได้อย่างยาวนานโดยที่ FaceXercise Clinic มีอยู่หลากหลายโปรแกรมได้แก่
2.1 Sculptra
Sculptra (สคัลป์ตร้า) คือ นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว เป็นสาร PLLA (Poly-L-Lactic-Acid) ซึ่งเป็น BioStimulator ตัวแรกของโลกที่ถูกใช้กับร่างกายของมนุษย์มายาวนานกว่า 60 ปี และบนใบหน้ากว่า 20 ปี โดยตัว PLLA ผลิตขึ้นจากพืชสามารถย่อยสลาย ทั้งยังเข้ากันได้ดีกับร่างกายมนุษย์ ทำให้ช่วยลดการเกิดอาการแพ้ การตกค้าง ทำให้มีความปลอดภัยที่สูงมาก
Review Sculptra
2.2 Gouri Collagen PCL 21%
Gouri Collagen PCL นวัตกรรมการฟื้นฟูคุณภาพผิวด้วย PCL ที่มีความปลอดภัยสูงโดยเข้าไปกระตุ้น Fibroblast เดิมให้สร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้มากขึ้น พร้อมสร้าง Fibroblast ใหม่ขึ้นมา โดยสาร PCL สามารถอยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน จึงสามารถได้รับคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวคุณภาพดี และ แข็งแรงอย่างยั่งยืน
Review Gouri Collagen PCL 21%
2.3 Collagen Young
Collagen Young นวัตกรรมการฟื้นฟูคุณภาพผิวด้วย collagen และ Hyaluronic Acid ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ถึง 1000 เท่า เติมเข้าสู่ผิวโดยตรงไม่รอการดูดซึมทำให้ผิวสามารถนำไปใช้ได้ทันทีพร้อมด้วยมัลติวิตามิน และ Growth Factor ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอย่างต่อเนื่อง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในชั่วข้ามคืน
3.เครื่องมือกระตุ้นคอลลาเจน
สำหรับใครที่กลัวเข็ม รอยเข็ม หรือ ต้องการใช้หน้าด่วน FaceXercise Clinic ก็มีเครื่องมือที่คอยรองรับได้แก่
3.1 Ultherapy Exercise ยกกระชับขั้นสุด
Ultherapy ยกกระชับ x2 ผิวตึงและถูกยกมากกว่า ที่สุดของนวัตกรรมยกกระชับที่เป็นเทคโนโลยีแบบ Original ด้วยคลื่น high intensity focused ultrasound (HIFU) ความถี่สูงที่มีความเฉพาะเจาะจง ยกกระชับลงลึกถึงชั้น SMAS พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นลึก ผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น เห็นผลหลังทำทันที 40% ผสานกับ LPG Endermologie ออกกำลังกายผิวหน้าด้วยกลไก Organic เครื่องเดียวในโลก มีผลงานวิจัยกว่า 145 ฉบับ กลไกนี้ช่วยยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจน ผิวชั้นตื้น ผลลัพธ์ทำให้ผิวแน่น เด้ง ฟู สามารถสร้างผิวสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน combo เดียวที่ช่วยยืดอายุผลลัพธ์ได้นานถึง 12-18 เดือน เฉพาะที่ FaceXercise Clinic เท่านั้น
Review Ultherapy
3.2 Exosmpf Fast Collagen
Exosmpf Fast Collagen สร้าง “คอลลาเจน” จากภายนอกสู่ภายใน แก้ผิวแก่ใน 7 วัน เห็นผิวดีขึ้นได้ตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ทำถึง 25-30 % ทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ช่วยผิวกระจ่างใสเปล่งปลั่งนุ่มเด้งหน้าจับ ทำต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไปแก้ผิวที่มีความเหี่ยวย่น ริ้วรอย รวมถึงมีหลุมสิว ให้เรียบเนียนเหมือนผิวเด็ก
Review EXOSMPF FAST COLLAGEN
3.3 Collagen Wave
Collagen Wave ใช้คลื่น Monopolar RF ยิงเข้าไปใต้ผิวเพื่อให้คอลลาเจนเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพและปริมาณเชิงคุณภาพจะกระตุ้นคอลลาเจนเดิมที่เสื่อมสภาพเกิดการหดตัว และปรับปรุงคุณภาพของคอลลาเจนให้พร้อมที่จะทำงานเชิงปริมาณกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และ จัดเรียงตัวขึ้นใหม่อีกครั้งทำให้มีปริมาณคอลลาเจนที่มาก และ คุณภาพสูงขึ้น ส่งผลให้มีผิวที่แข็งแรงในระยะยาวอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
Review Collagen Wave
3.4 Duet V
Duet V ยกกระชับปรับหน้าเรียว ด้วยคลื่น Monopolar RF ที่ส่งไปยังชั้นหนังแท้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินช่วยซ่อมแซมผิวได้ลึกถึงชั้นไขมันมาพร้อมกับฟังชั่น Realtime Sensor ที่จะช่วยป้องกันการเบิร์นผิวทำให้ไม่รู้สึกแสบขณะที่ทำ
Review Duet V
3.5 Ultraformer III ยกกระชับไม่ต้องผ่าตัด
Ultraformer III ยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยคลื่น Micro & Macro Focused Ultrasound เป็น Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera เนื่องจากพลังงานเป็น Macrofocus และมีรอบพลังงานไวที่สุดจึงเจ็บน้อยลง สามารถใช้พลังงานได้สูงเต็มที่ ช่วยยกกระชับได้ถึงผิวชั้น SMAS สลายไขมัน และถูกออกแบบมาให้สามารถกระตุ้น Collagen ได้ในทุกชั้นผิว อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
Review Ultraformer III
3.6 Ice Hifu
ICE HIFU ยกระดับการยกกระชับ ต่างจาก hifu ทั่วไปตามท้องตลาด ด้วยคลื่นเสียง Vertical Dynamic Focused Ultrasound ปล่อยพลังงานออกมาแบบ Single Shot (ช็อตเดี่ยวขนาดใหญ่) ลงลึกถึงใต้ผิวหนัง และไขมัน SMAS พลังงานมีความเสถียร แม่นยำ ทำให้ขณะยิงความเจ็บเป็น 0 ไม่เสียวแนวฟันกราม จึงทำได้บ่อย ไม่ต้องแปะยาชา ไม่ต้องเตรียมใจทำ เหมาะมากกับคนแพ้ยาชา
พร้อมระบบ Contact Cooling คอยปล่อยความเย็น 5 องศา ช่วยให้รู้สึกสบายลดการเบิร์นผิวหน้า และกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเนียน เด้ง หน้าไม่แดงมาก อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ต่างจาก HIFU ทั่วไปที่อยู่ได้ 1-3 เดือนเท่านั้น
Review Ice Hifu
